วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตำรวจหาดใหญ่ ถูกตุ๊กแกกินตับ!


 
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหาดใหญ่ จับกุมตัวนายถาวร พิศดุกิจ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ,นายภิญโญ จันทร์นวน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และนายกิตติ จิตต์วิชัย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/231 หมู่ 4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯถูก จนท.ตำรวจหาดใหญ่จับกุมตัวพร้อมยึดตุ๊กแกบ้าน จำนวน 200 ตัว และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บว 1037 สงขลา พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมส่งตัวพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดี

ต่อมาในวันนี้ 19 พฤศจิกายน 2553 พ.ต.อ.จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ทำเรื่องส่งไปให้เจ้าหน้าที่เพาะพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยให้นำตุ๊กแกบ้านส่งไปให้ตรวจสอบพร้อมทั้งยืนยันว่ามีตุ๊กแกบ้านไว้ผิดหรือไม่ผิด ซึ่งต่อมา เวลาประมาณ 12.30 น.วันเดียวกัน นายกอบศักดิ์ สุวรรณรัตน์ นักวิทยาศาสตร์ 7 ว.และเป็นหัวหน้าเพาะพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ได้ทำหนังสือยืนยันมาถึงพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ว่าตุ๊กแกดังกล่าวไม่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ตาม พรบ.และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

ดังนั้นพนักงานสอบสวน จึงต้องปล่อยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลางคืนให้กับเจ้าของ

ทำให้ 1 ใน เจ้าของตุ๊กแก โวย ตุ๊กแกราคาเป็นล้านใครรับผิดชอบ

------------------------------------------------------------------------

ต่อมาในวันนี้ 20 พฤศจิกายน 2553 นายถาวร พิศดุกิจ อายุ 26 ปี 1 ใน 3 ผู้เสียหาย ก็ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ต.สุรพัฒน์ อาดสะอาด ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.สมศักดิ์ เทพรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในความผิดทำให้ตุ๊กแก จำนวน 199 ตัว ตายและน้ำหนักลดลง ทำให้ทรัพย์สินเสื่อมค่า เสียหาย ทำให้ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจ เรียกร้องเอาทรัพย์สิน ข่มขู่ ประพฤติหน้าที่โดยมิชอบ นำเข้าห้องขังโดยไม่มีความผิด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลัง ร.ต.ต.สุรพัฒน์ รับแจ้งความแล้วจึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้เกี่ยวกับการฟ้องกลับของผู้เสียหายกรณีการจับตุ๊กแกว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ตามข้อเท็จจริงแล้ว หากว่ามีการจับกุมแล้วมีผู้ชำนาญการที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่ผิดแล้ว ทางตำรวจก็ต้องทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องให้ เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกจับ แต่จะหาว่าทาง จนท.ตำรวจ ประพฤติมิชอบนั้น ก็ต้องบอกว่าตำรวจไม่ใช่ผู้ชำนาญการ และมีการทำเรื่องสอบถามตามขั้นตอนแล้ว ก็ถือว่ามีเจตนาพยายามทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนประเด็นอื่น ๆ หากมีการแจ้งความกล่าวโทษ ก็ต้องชี้แจงและว่ากันไป.

ข้อมูลข่าวจาก...เสียงใต้ออนไลน์
-------------------------------------------------------------------------

ผมติดตามข่าวนี้มาตั้งแต่ต้น ว่าจะลงเอยอย่างไร?

การที่นายดาบตำรวจหาดใหญ่คนนั้น ตั้งข้อหาว่า “ร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ท่านจะต้องรู้ข้อกฎหมายดีแล้ว เพราะท่านเป็นถึงนายดาบตำรวจ อายุราชการต้องไม่ตำกว่า 20 ปี

- แต่...แค่เรื่องนี้..ถ้าท่านไม่รู้ แล้วเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ท่านจะรู้หรือไม่?

- อายุราชการไม่ต่ำกว่า 20 ปี ท่านไม่รู้มากี่เรื่องแล้ว?

ทีนี้เมื่อจับชาวบ้านไปขังแล้ว พิสูจน์ได้ว่า เขาไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา แต่..

ชาวบ้าน ถูกขังไปแล้ว สูญเสียอิสรภาพแล้ว เสียชื่อเสียงแล้ว เสียประวัติแล้ว เสียทรัพย์สินแล้ว หลังจากที่พิสูจน์ได้ว่า พวกนั้นไม่ผิด..

นายตำรวจใหญ่ พูดว่า “ทางตำรวจก็ต้องทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องให้ เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกจับ แต่จะหาว่าทาง จนท.ตำรวจ ประพฤติมิชอบนั้น ก็ต้องบอกว่าตำรวจไม่ใช่ผู้ชำนาญการ และมีการทำเรื่องสอบถามตามขั้นตอนแล้ว ก็ถือว่ามีเจตนาพยายามทำความจริงให้ปรากฏ”

ฟังๆดู ก็เท่ากับว่า ความจริงปรากฏแล้ว ว่าไม่ผิด ไม่ต้องรับโทษ! และความจริงปรากฏแล้วว่า นายดาบตำรวจคนนั้นผิด แต่จะต้องรับโทษหรือไม่?

พวกสิทธิมนุษยชน ทั้งหลายไปอยู่ไหนกันหมด? ....

ชำนาญ ณ.อันดามัน

2 ความคิดเห็น:

  1. สังคมไทยยังต้องพัฒนาอีกเยอะ
    คนทำงาน ทำมาก ผิดพลาดมาก
    คนไม่ทำงาน ไม่ผิดพลาดเลย เพราะไม่ทำเลย
    ...............................
    เห็นใจสังคมไทย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
    จริงครับ!..คำพูดนี้ ใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย และยังจะใช้ได้ไปอีกนานครับ

    ตอบลบ

ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ทั่วไป กรุณาใช้คำสุภาพ