วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พ่อเมืองภูเก็ตยันภูเก็ตไม่มีมาเฟีย



ภายหลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มมาเฟียต่างชาติใน จ.ภูเก็ต หลังเข้ามาตั้งบริษัทนอมินีประกอบธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวโดยกีดกันคุกคามคนไทยไม่ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอ และทางดีเอสไอจะลงพื้นที่ภูเก็ตในวันที่ 25 ก.ค. 2556 นี้
......


มีข่าวว่า พ่อเมืองภูเก็ต เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือจัดเตรียมข้อมูลเสนอรัฐมนตรีฯ ท่องเที่ยว และดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบมาเฟียต่างชาติ 25 ก.ค.นี้ ยืนยันภูเก็ตไม่มีมาเฟียต่างชาติแก๊งใหญ่ ทำได้เพียงรวมตัวกันเพื่อหาผลประโยชน์ชั่วคราว แต่ถูกทางราชการสลายไปหมดแล้ว 
..
แต่..ขอโทษครับท่าน ..ในบางพื้นที่ ยังมีมาเฟียในคราบตำรวจครับผม.

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ขับรถอันธพาล


          เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.55 เวลาประมาณ บ่ายแก่ๆ ที่แยกไฟแดงเกาะแก้ว ขาเข้าเมืองภูเก็ต
เหตุการณ์นี้ผู้เขียนเจอด้วยตัวเอง กับการขับรถอันธพาลของคนขับรถ(ไม่ขอใช้คำว่าพนักงาน)บริษัทหนึ่ง

          บนผิวการจราจรที่มีรถคับคั่ง การขับรถเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบหรือที่เรียกกันว่า "เสียบ" เพื่อให้รถของตัวเองได้เข้าไปอยู่ในช่องทางวิ่งที่ต้องการ ถือเป็นเรื่องปกติ ที่คนขับรถโดยทั่วไปต้องพบเจอกันอยู่ทุกวี่วัน ซึ่งพอจะรับกันได้ ถ้าหากว่าไม่ขับ "อันธพาล" จนเกินไป

           แต่สำหรับรถบัสคันเท่าตึกที่ขับอยู่ช่องซ้ายสุด แล้วอยู่ๆก็ขับปาดข้ามไปอยู่ช่องขวาสุด ซึ่งเป็นช่องยูเทิร์น ในขณะที่รถทั้งหมดกำลังเคลื่อนตัวไปสู่ไฟสัญญาณจราจร โดยไม่สนใจว่าใครจะเบรกหัวทิ่มยังไง ซึ่งถ้าเบรกไม่ทันก็ต้องเบียดกันยับเยิน

           แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อมีสัญญาณไฟเขียว พ่อเจ้าประคุณดันเบียดซ้ายกลับเข้ามาในช่องทางวิ่งอีก จนรถคันอื่นๆ เบรกกันหัวทิ่มอีกรอบ ผู้เขียนเห็นวิธีการขับรถบัสมามาก แต่ไม่เคยเห็นใครขับแบบไอ้คนนี้.
           สำหรับไอ้คนขับรถบัสคันนี้ เห็นแล้วบอกได้ว่า "ขับรถอันธพาล" จริงๆ!!!!..

            ขอฝากไปถึงเจ้าของบริษัทรถโดยสารสาธารณะคันนี้ด้วยความปารถนาดีว่า..ถ้าท่านยังขืนจ้างไอ้คนขับรถคันนี้เอาไว้ขับรถของท่านต่อไป สักวันไอ้คนขับรถคันนี้ จะทำให้ท่านต้องชดใช้ความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล จากการขับรถอย่างอันธพาลของมัน

           หมายเหตุ... ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ผู้เขียนไม่ได้รู้จักกับคนขับรถบัสคันนี้เป็นการส่วนตัว และไม่ได้คิดกลั่นแกล้งคนขับรถคันนี้ อีกทั้งไม่มีเจตนาจะทำให้บริษัทนี้เสียภาพพจน์แต่อย่างใด เพียงแต่คำนึงถึง ความสูญเสียในสังคมส่วนรวมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยวิธีการขับรถแบบอันธพาลของคนขับรถบัสคันนี้


ดูกันชัดๆ ว่าเป็นรถของบริษัทอะไร? และวิ่งบนเส้นทางสายอะไร?.


วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความโหลยโท่ยของตำรวจไทย


ดูข่าวช่วงนี้ มีแต่เรื่องตำรวจจับคนร้ายผิดตัวบ่อยมาก
ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจไทยจะโหลยโท่ย ไร้ประสิทธิภาพขนาดนี้
นี้ที่พอจะมีข่าวเผยแพร่ออกมาบ้าง ยังมากขนาดนี้
แล้วที่ไม่มีข่าวหรือปิดข่าว จะมีจำนวนกี่รายก็ยังไม่รู้
น่าคิดว่าในคุกคงจะมีคนบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย
จากความโหลยโท่ยหรือความมักง่ายของตำรวจไทย