วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปัญหาระหว่าง ตัวแทนขายทัวร์ กับ บริษัททัวร์ เขตอันดามัน

-------------------------------------------------------------------


ขอเขียนถึงความ ไม่ลงตัว ระหว่าง ตัวแทนขายทัวร์(Agency) กับ ผู้ประกอบการนำเที่ยว หรือ บริษัททัวร์ (Tour company ) ในเขต อันดามัน ซึ่งเป็นเรื่อง อึดอัด หนักอก หนักใจ ของ บริษัททัวร์ ตลอดมา

สมมุติว่า ผมก่อตั้ง บริษัททัวร์ ขึ้นมาชื่อ “หิมพานต์ทัวร์” นำเที่ยวภูเขา หิมพานต์บรรพต จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย เปิดสำนักงาน ใหญ่โตโอ่โถง อยู่ย่านนักท่องเที่ยวใจกลางเมืองภูเก็ตเชียว (ที่สาธยายมานี่ ตัวเองมีความฝันมานานแล้ว แต่ไม่เคยเป็นจริงซักที แฮะ.แฮะ.) จัดการ พิมพ์ Brochure กำหนดโปรแกรม Package Tour ว่ามีอะไรบ้าง เริ่มต้นการเดินทางกี่โมง?, จบกี่โมง?, บริการอาหารและเครื่องดื่มอะไร.? เวลาไหน.?, สิ่งอำนวยความสะดวกที่บริษัทจัดให้, สิ่งของจำเป็นส่วนตัวที่จะต้องนำไป ฯลฯ, และที่สำคัญที่สุดคือ “ราคาค่าทัวร์” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ Package Tour ของผม.

สมมุติอีก (ก็บริษัทสมมุติ แต่เป็นเรื่องจริง) เมื่อมีทุกอย่างพร้อมแล้ว ผมจะนั่งคอยให้นักท่องเที่ยว เข้ามาติดต่อ ซื้อทัวร์ ที่บริษัท ซึ่งมีผม, พนักงานสำนักงาน, ไกด์ รวมสิบกว่าชีวิต คอยให้บริการ …นั่งตบยุง ไม่ถึงสามเดือนครับ.. ผมเจ๊งครับ.เพราะไม่มีใครรู้จัก บริษัท “หิมพานต์ทัวร์” แล้ว..ผมจะทำยังไงให้มีคนรู้จัก.?

ท่านผู้รู้ บอกว่า.. (ไม่สงวนลิขสิทธ์) จะต้องทำการ Promote,โฆษณา,ประชาสัมพันธ์ กับสื่อสิ่งพิมพ์,วิทยุ,โทรทัศน์, ป้ายคัตเอ้าท์, เว็ปไซต์ และที่สำคัญที่สุด ต้องทำ Contact กับ Counter tour ซึ่งเป็น Agency สำคัญ ที่มีอยู่เหมือนดอกเห็ด ตาม Lobby โรงแรมและ ตามชายหาดต่างๆ Agency เหล่านี้ได้สัมผัสกับนักท่องเที่ยวโดยตรง ตัวแทนขายทัวร์ต่างๆเหล่านี้ มีทั้งที่ จดทะเบียนกับ สำนักงานการท่องเที่ยวเขต ถูกต้องตามกฏหมาย และ พวกขาย ”ทัวร์เถื่อน” ซึ่งมีอยู่มากมายหลายรูปแบบ ทีนี้มาดูกันว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน?

ตามมาดูปัญหากันครับ มิตรรัก นักชม…

บริษัท หิมพานต์ทัวร์ พิมพ์ราคาขายไว้หน้า Brochure ผู้ใหญ่ คนล่ะ 2,000 บาท เด็ก คนล่ะ 1,500 บาท เมื่อไปติดต่อทำ Contact กับ ตัวแทนขายทัวร์ ราคา net ที่บริษัทจะได้ คือ ผู้ใหญ่ คนล่ะ 1,200 บาท เด็กคนล่ะ 1,000 บาท ตัวแทนขาย จะได้ส่วนต่าง 800 บาท กับ 500 บาท ต่อคน และส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยว ฝรั่ง จะมาคู่ เพราะฉะนั้นเขาจะได้ 800×2 =1,600 บาท เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว รายได้มาจากแค่พูดแล้วเก็บเงิน ส่วนบริษัทจะได้ 1,200×2=2,400 บาท ซึ่งต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา

ปัญหาอยู่ที่ว่า ตัวแทน (Agency) ขายคนล่ะ 2,000 บาท ฝรั่งไม่ซื้อนี่สิ..ฝรั่งบอกว่าแพง เขาจึงต้อง ลดราคาเหลือ 1,800 ไม่ซื้อ ลดอีก1,500 ไม่ซื้ออีก ลดอีก เหลือ 1,200 ทีนี้เท่าทุน แล้ว ฝรั่ง ก็ยังไม่ซื้ออีก ทำไม? เพราะฝรั่ง เดินถาม มาตลอดชายหาด ฝรั่งรู้ว่า ทัวร์นี่ ต่อ-รองราคาได้ เหมือน ซื้อผัก ซื้อปลา (ใครทำให้ ฝรั่งรู้.?) เขาจึงคิดว่าต้องมีที่ถูกที่สุด แต่..คุณพี่ Agency กลับคิดว่า..“เห้.ไอ้.ฝรั่ง ขี้เหนียว รู้มาก.. แต่ยังไง วันนี้ต้องขาย เอาเงินไปหมุนก่อน” แล้ว คุณพี่เขาก็ขาย 1,000 บาท ต่อคนครับท่าน ขาดทุนไปแล้ว คนล่ะ 200 บาท ไม่เป็นไร ค่อยขาย รายใหม่ เอามาชดเชย

แต่..มันไม่ได้อย่างที่คิดเสมอไป อย่างตอนหน้า “โลว์ซีซั่ นักท่องเที่ยวมีน้อย เคาเตอร์ทัวร์ ยังมีเท่าเดิม และยังมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ขายทัวร์ ได้แล้วเอาเงินมาใช้จ่ายก่อน พอถึงเวลาบริษัททัวร์ วางบิล ไม่มีให้เขา หลายบริษัทเข้า หลายครั้งเข้า รวมเงินเป็นแสน ทำยังไงละ ทีนี้ ..ปิดเคาเตอร์ หนีสิครับ พี่น้อง.. เบี้ยว มันทั้งค่าทัวร์, ค่าเช่าเคาเตอร์, ค่าน้ำ, ค่าไฟ เผลอๆ ค่าข้าวราดแกงร้านข้างๆด้วย ฮ้า..ฮ้า..

อีกปัญหา มาจาก พวกขาย “ทัวร์เถื่อน” เช่น แท็กซี่ป้ายดำ, รถตุ๊ก ตุ๊ก,มอเตอร์ไซต์รับจ้าง บริษัทไม่ได้ทำ contact กับพวกนี้ แต่ สำหรับโบรชัวร์ ของบริษัท พวกนี้ หาไม่ยาก พวกเขามีโบรชัวร์ ของบริษัทต่างๆ อย่างล่ะใบ สองใบ เขาก็หากินได้ พวกนี้ลดราคาแหลก ขายฝรั่ง คนล่ะ 1,000 บาท เขาหักใว้แล้ว 200 ที่เหลือบอกให้ฝรั่ง จ่ายที่ บริษัททัวร์ในวันทำทัวร์ จัดการโทรจองทัวร์ ให้เสร็จสรรพ บอกให้บริษัทเก็บเงินค่าทัวร์จากแขกด้วย เต็มที่

พอถึงวันทำทัวร์ บริษัทขอเก็บเงินจากแขกส่วนที่เหลือ แขกจ่ายมาคนล่ะ 800 และยืนยันว่าเขาตกลง ซื้อมาคนล่ะ 1,000 บาทและจ่ายไปแล้ว 200 ทำยังไงล่ะครับ ก็ต้องจำยอม พาเขาไป ไม่งั้น ฝรั่งโวย กลายเป็นหนังเรื่องยาว แน่ๆ นี่คือหนังตัวอย่างบางตอน

ยังมีอีก บริษัทหิมพานต์ทัวร์ ของผม ยังไม่หมด วิบากกรรม ยังมีบริษัทอื่น ที่ขายทัวร์ ประเภทเดียวกัน แต่ ทำ contact กับ เคาเตอร์ทัวร์ ในราคาที่ต่างกัน เช่น ขายคนล่ะ 2,000 บริษัท เอาแค่ 800 เคาเตอร์ ก็ลดได้เต็มที่ แล้วส่งให้ บริษัทนั้นเต็มที่ ฝรั่งนักท่องเที่ยว ได้ประโยชน์ เต็มๆ ผลปรากฏว่า บริษัท “หิมพานต์ทัวร์” ของผมเจ้ง เพราะไม่มีลูกค้า แล้วอีกไม่นาน บริษัทนั้นก็เจ๊งตามมา เพราะขาดทุน ทุกเที่ยว และเคาเตอร์ทัวเบี้ยวด้วย..

สรุปว่า ปัญหาส่วนใหญ่ มีตามที่ผมสาธยายมานี่แหละ ซึ่งก็แก้ยากมาก ตราบใด ที่คนยังมีความเห็นแก่ประโยชน์ ส่วนตนสูง และไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาในอนาคต ความมีมาตรฐาน ทางด้านราคา ด้านบริการ และคุณภาพต่างๆ ของผู้ประกอบการ การท่องเที่ยว ในเขต อันดามัน ก็จะตกต่ำลงเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็ถึงกาลอวสาน พังพินาศยับเยินกว่า “สึนามิ” อย่างเทียบกันไม่ได้ทีเดียว.

—————————————

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ทั่วไป กรุณาใช้คำสุภาพ